All Category
> ไฟสระว่ายน้ำ: คู่มือเลือกซื้อ LED, RGB และรีวิวแบรนด์ดัง 2025

ไฟสระว่ายน้ำ: คู่มือเลือกซื้อฉบับสมบูรณ์ รีวิว 5 แบรนด์ดัง (อัปเดต 2025)

เปลี่ยนสระธรรมดาให้กลายเป็นสวรรค์ยามค่ำคืน พร้อมเคล็ดลับประหยัดไฟและความปลอดภัยสูงสุด

สระว่ายน้ำไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับออกกำลังกายหรือคลายร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังสามารถเป็นจุดศูนย์กลางของความงดงาม ความบันเทิง และการพักผ่อนในยามค่ำคืนได้อีกด้วย และกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพนั้นก็คือ "ไฟสระว่ายน้ำ" (Swimming Pool Light) แสงไฟที่ส่องสว่างใต้น้ำไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสระหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่ยังสามารถเปลี่ยนบรรยากาศทั้งหมดของบ้านคุณ สร้างมิติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเติมเต็มทุกปาร์ตี้ริมสระให้สมบูรณ์แบบ

แต่การเลือกซื้อไฟสระว่ายน้ำในปัจจุบันนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด ด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งไฟ LED, ไฟเปลี่ยนสีได้ (RGB), รูปแบบการติดตั้ง และแบรนด์ต่างๆ มากมายในตลาด คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด เราจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่ประเภทของไฟ, สิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด, ไปจนถึงการรีวิว 5 แบรนด์ยอดนิยมในตลาด เพื่อให้คุณสามารถเลือกไฟสระว่ายน้ำที่ใช่ที่สุดสำหรับสระของคุณได้อย่างมั่นใจ

บทที่ 1: ประเภทของไฟสระว่ายน้ำ - เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณ?

การทำความเข้าใจประเภทของไฟเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งได้ตามเทคโนโลยี, ความสามารถในการเปลี่ยนสี, และรูปแบบการติดตั้ง

1.1 แบ่งตามเทคโนโลยี: LED คือคำตอบสุดท้าย

  • ไฟ LED (Light Emitting Diode): นี่คือมาตรฐานของไฟสระว่ายน้ำในปัจจุบันและเป็นเทคโนโลยีที่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน:
    • ประหยัดพลังงานสูงสุด: ใช้พลังงานน้อยกว่าไฟฮาโลเจนแบบเก่าถึง 80-90% ทำให้ค่าไฟของคุณลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    • อายุการใช้งานยาวนานมาก: มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 20,000 - 50,000 ชั่วโมง (หลายปี) แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนหลอดไฟเลย
    • ให้สีสันที่สดใสและหลากหลาย: สามารถสร้างสีสันได้นับล้านสี มีความสว่างและคมชัดสูง
    • ความร้อนต่ำ: ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก ทำให้ปลอดภัยและไม่ส่งผลต่ออุณหภูมิน้ำ
  • ไฟฮาโลเจน (Halogen): เป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่าที่เคยได้รับความนิยม ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า แต่มีข้อเสียมากมายทั้งการกินไฟสูง, อายุการใช้งานสั้น, สร้างความร้อนสูง และให้ได้แค่แสงสีเดียว ปัจจุบันจึงไม่เป็นที่แนะนำสำหรับการติดตั้งใหม่

1.2 แบ่งตามความสามารถในการเปลี่ยนสี

  • ไฟแสงขาว (White Light): ให้แสงสีขาวคลาสสิก (มักเป็นสี Warm White หรือ Cool White) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสว่าง ชัดเจน เรียบง่าย และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
  • ไฟเปลี่ยนสีได้ (RGB/RGBW): ตัวเลือกที่สนุกและสร้างบรรยากาศได้ดีที่สุด "RGB" สามารถผสมแม่สีของแสงเพื่อสร้างสีต่างๆ ได้นับล้านสี ในขณะที่ "RGBW" จะมีชิปไฟ LED สีขาว (White) เพิ่มเข้ามาโดยเฉพาะ ทำให้สามารถให้แสงสีขาวที่บริสุทธิ์และสว่างกว่า ไฟประเภทนี้มักมาพร้อมรีโมทคอนโทรลหรือแอปพลิเคชัน

1.3 แบ่งตามรูปแบบการติดตั้ง

  • แบบฝังในเบ้า (Niche Lights): เป็นรูปแบบดั้งเดิมที่ต้องมีการติดตั้ง "เบ้า" ฝังเข้าไปในโครงสร้างผนังสระตั้งแต่ตอนก่อสร้าง เหมาะสำหรับสระสร้างใหม่
  • แบบแปะผนัง (Surface-Mount / Nicheless): เป็นรูปแบบที่ทันสมัยและได้รับความนิยมมากขึ้น มีลักษณะเป็นโคมไฟทรงบางที่ยึดติดกับผนังสระได้โดยตรง ติดตั้งง่ายกว่าและเหมาะสำหรับการติดตั้งเพิ่มเติมในสระเก่า

บทที่ 2: สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ - ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

ก่อนจะตัดสินใจเลือกแบรนด์หรือรุ่นใดๆ นี่คือปัจจัยสำคัญที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ความปลอดภัยคืออันดับหนึ่ง: ต้องเป็นระบบไฟ 12V เท่านั้น!

เรื่องนี้สำคัญที่สุดและไม่สามารถประนีประนอมได้โดยเด็ดขาด! ไฟฟ้ากับน้ำเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ระบบไฟสระว่ายน้ำที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากลทั่วโลก จะต้องเป็น ระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ 12 โวลต์ (12V AC) เท่านั้น ห้ามใช้ไฟบ้าน 220V ต่อตรงเข้าโคมไฟใต้น้ำเด็ดขาด เพราะหากเกิดการรั่วไหลอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การทำงานของระบบ 12V จะต้องติดตั้งผ่าน หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงไฟบ้าน 220V ให้เป็นไฟ 12V ที่ปลอดภัย ก่อนที่จะส่งกระแสไฟไปยังโคมไฟในสระ

ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating)

มองหามาตรฐาน IP68 บนโคมไฟเสมอ ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องทำงานใต้น้ำตลอดเวลา

ความสว่าง (Lumens) และจำนวนโคมไฟ

ความสว่างของไฟ LED จะวัดเป็น "ลูเมน" (Lumens) ยิ่งค่าลูเมนสูง ก็ยิ่งสว่างมาก โดยทั่วไปสระว่ายน้ำต้องการความสว่างประมาณ 50-60 ลูเมนต่อตารางเมตรของพื้นที่ผิวน้ำ แต่สำหรับสระที่มีผนังสีเข้มอาจต้องการความสว่างที่มากขึ้น

บทที่ 3: รีวิวเจาะลึก 5 แบรนด์ไฟสระว่ายน้ำยอดนิยม

นี่คือการเปรียบเทียบ 5 แบรนด์ชั้นนำในตลาดประเทศไทย เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพว่าแบรนด์ไหนมีจุดเด่นและเหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

3.1 Emaux: คุณภาพมาตรฐาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

Emaux เป็นแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์สระว่ายน้ำครบวงจรที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศไทยและทั่วโลก มีชื่อเสียงในด้านการผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพมาตรฐานในราคาที่สมเหตุสมผล ไฟสระว่ายน้ำของ Emaux จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับสระในบ้าน, โครงการหมู่บ้าน, และสระกึ่งพาณิชย์

จุดเด่นของแบรนด์ Emaux:

  • ความน่าเชื่อถือสูง: เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบและได้มาตรฐานสากล
  • มีให้เลือกหลากหลาย: มีไฟให้เลือกครบครันทั้งแบบ LED แสงขาว, RGB, แบบฝังเบ้า และแบบแปะผนัง
  • คุ้มค่าคุ้มราคา: ให้คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหาไฟสระว่ายน้ำที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มีตัวเลือกหลากหลาย และคุ้มค่ากับการลงทุน

3.2 Jesta: ตัวเลือกสุดคุ้ม อัดแน่นด้วยฟังก์ชัน

Jesta เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงในตลาดประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มองหาความคุ้มค่าสูงสุด Jesta มักจะนำเสนอไฟสระว่ายน้ำที่มีฟังก์ชันครบครัน โดยเฉพาะไฟ LED RGB ที่มาในราคาที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง

จุดเด่นของแบรนด์ Jesta:

  • ราคาที่เป็นมิตร: เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เสนอราคาได้ดีที่สุดในตลาด โดยเฉพาะรุ่น RGB
  • ฟังก์ชันครบครัน: มักจะมาพร้อมรีโมทคอนโทรลสำหรับเปลี่ยนสีและเลือกโหมดการแสดงไฟได้หลากหลาย

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการไฟเปลี่ยนสีได้ในงบประมาณที่จำกัด หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนไฟเก่าเป็นไฟ LED RGB โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูง

3.3 Hayward: เทคโนโลยีระดับพรีเมียมและความสว่างเหนือชั้น

ไฟสระว่ายน้ำของ Hayward จากอเมริกาก็เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ ที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพสูงสุด ความทนทาน และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ซีรีย์ ColorLogic® ของ Hayward ถือเป็นหนึ่งในไฟสระว่ายน้ำเปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในโลก

จุดเด่นของแบรนด์ Hayward:

  • ความสว่างและคุณภาพสีดีที่สุด: เทคโนโลยีของ Hayward ให้แสงที่สว่างและสีสันที่สดใสคมชัดกว่าแบรนด์ทั่วไป
  • นวัตกรรมและโปรแกรมแสดงแสงสี: มีโปรแกรม Light Show ให้เลือกหลากหลายและสวยงามกว่า
  • ทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติ: สามารถทำงานร่วมกับระบบควบคุมสระอัตโนมัติ (Automation System) ของ Hayward ได้

เหมาะสำหรับ: สระระดับไฮเอนด์ ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพความสว่างและคุณภาพสีที่ดีที่สุดในตลาด

3.4 Hotook: ทางเลือกสำหรับสายเทคฯ ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน

Hotook เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นขึ้นมาในตลาดยุคใหม่ โดยเน้นไปที่ฟีเจอร์การควบคุมที่ทันสมัยและราคาที่แข่งขันได้สูง จุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดคือไฟ RGB ที่สามารถควบคุมการทำงานทุกอย่างผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน

จุดเด่นของแบรนด์ Hotook:

  • ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน: สามารถเลือกสี, ปรับความสว่าง, ตั้งเวลา, หรือ Sync แสงไฟให้เข้ากับเสียงเพลงได้
  • ราคาแข่งขันได้สูง: เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้รับ ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความคุ้มค่าสูงมาก

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ต้องการควบคุมทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน และมองหาฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยในราคาที่จับต้องได้

3.5 RaiOn: คุณภาพที่มั่นใจได้สำหรับตลาดในประเทศ

RaiOn เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นการทำตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น มีจุดเด่นที่การนำเสนอสินค้าที่เชื่อถือได้ในราคาที่เหมาะสม

จุดเด่นของแบรนด์ RaiOn:

  • ราคาที่เหมาะสม: นำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่แข่งขันได้ดี
  • เชื่อถือได้: เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพการผลิตและอายุการใช้งาน

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสินค้าคุณภาพดี มีการรับประกันที่ชัดเจน และสนับสนุนแบรนด์ที่เข้าใจตลาดในประเทศ

บทที่ 4: การติดตั้งและบำรุงรักษา

เพื่อให้ไฟสระว่ายน้ำของคุณทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีอายุการใช้งานยาวนาน การติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

การติดตั้ง: ปลอดภัยไว้ก่อน

ย้ำอีกครั้งว่างานติดตั้งไฟสระว่ายน้ำ ควรดำเนินการโดยช่างไฟฟ้าและช่างสระว่ายน้ำที่มีความชำนาญเท่านั้น เนื่องจากเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าใต้น้ำโดยตรง

การบำรุงรักษา

ไฟ LED แทบจะไม่ต้องการการบำรุงรักษาเลยตลอดอายุการใช้งาน สิ่งที่ควรทำเป็นครั้งคราวคือการใช้ฟองน้ำนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดหน้าเลนส์ของโคมไฟเพื่อขจัดคราบตะกรันที่อาจบดบังความสว่าง

เปลี่ยนสระของคุณให้มีชีวิตชีวายามค่ำคืน

ถึงเวลาเลือกแสงสว่างที่ใช่ เพื่อสร้างบรรยากาศสุดพิเศษในแบบของคุณ
เรามีไฟสระว่ายน้ำ LED ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาฟรีโดยผู้เชี่ยวชาญ

เลือกชมไฟสระว่ายน้ำทั้งหมดที่นี่ »
Sale