ถังกรองสระว่ายน้ำ: คู่มือเลือกซื้อ-รีวิวแบรนด์ดัง-ดูแลรักษา (อัปเดต 2025)

หากปั๊มสระว่ายน้ำคือ "หัวใจ" ที่สูบฉีดชีวิตให้กับสระของคุณ "ถังกรองสระว่ายน้ำ" (Swimming Pool Filter) ก็คือ "ไต" ที่ทำหน้าที่ฟอกเลือดให้สะอาดบริสุทธิ์ มันคืออุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการรักษาสภาพน้ำให้ใสสะอาด ปลอดภัย และน่าลงเล่น การเลือกถังกรองที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะทำให้น้ำใสราวกระจก แต่ยังช่วยลดการใช้สารเคมี ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบอีกด้วย

ในตลาดปัจจุบันมีถังกรองหลากหลายประเภทและหลายแบรนด์ เช่น Emaux, Hayward, Astralpool, Jesta และอีกมากมาย ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับเจ้าของสระได้ไม่น้อย คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลเพียงแห่งเดียวที่คุณต้องการ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกประเภทของถังกรอง เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย รีวิวแบรนด์ชั้นนำอย่างละเอียด และสอนวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อถังกรองที่ใช่ที่สุดสำหรับสระว่ายน้ำของคุณได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่า

1.1 ถังกรองทราย (Sand Filters) - ยอดนิยมและใช้งานง่าย

เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หลักการทำงานคือน้ำจะถูกดันผ่านชั้นทรายกรอง (Silica Sand) ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งจะดักจับสิ่งสกปรกและตะกอนไว้ สามารถกรองความละเอียดได้ประมาณ 20-40 ไมครอน

• ข้อดี: ใช้งานง่ายที่สุด, การบำรุงรักษาต่ำ (เพียงแค่ Backwash), สารกรองมีอายุการใช้งานนาน (3-5 ปี), ราคาเริ่มต้นไม่สูง
• ข้อเสีย: ความละเอียดในการกรองต่ำที่สุดใน 3 ประเภท, การ Backwash (ล้างย้อน) จะมีการสูญเสียน้ำบางส่วน

วาล์วบน (Top Mount) vs วาล์วข้าง (Side Mount)

วาล์วบน: ประหยัดพื้นที่ ราคาถูกกว่า แต่ดูแลรักษายากกว่า
วาล์วข้าง: ดูแลรักษาง่ายกว่ามาก (โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนทราย) แต่ใช้พื้นที่มากกว่าและราคาสูงกว่า ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

1.2 ถังกรองผ้า / ถังกรองกระดาษ (Cartridge Filters) - ประหยัดน้ำและกรองละเอียด

ทำงานโดยให้น้ำไหลผ่านไส้กรองที่ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์ลักษณะเป็นจีบๆ ซึ่งมีพื้นที่ผิวในการดักจับสิ่งสกปรกได้มาก สามารถกรองได้ละเอียดถึง 10-20 ไมครอน ทำให้น้ำใสกว่าถังกรองทราย

• ข้อดี: กรองได้ละเอียดกว่าทราย, ไม่ต้อง Backwash ทำให้ไม่สูญเสียน้ำ, ประหยัดพลังงานเพราะใช้แรงดันปั๊มต่ำกว่า
• ข้อเสีย: ต้องถอดไส้กรองออกมาล้างทำความสะอาดด้วยสายยางเป็นประจำ (ทุก 2-6 สัปดาห์), ไส้กรองมีอายุการใช้งานจำกัด (1-3 ปี) และมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน

1.3 ถังกรองดิน (D.E. Filters) - ที่สุดแห่งความใสสะอาด

Diatomaceous Earth (D.E.) คือผงที่ทำจากซากฟอสซิลของไดอะตอม สามารถกรองได้ละเอียดที่สุดถึง 1-3 ไมครอน ทำให้น้ำใสสะอาดราวกระจก

• ข้อดี: ให้น้ำที่ใสสะอาดที่สุดอย่างไม่มีใครเทียบ
• ข้อเสีย: การบำรุงรักษายุ่งยากที่สุด, ต้องมีการ Backwash และเติมผง D.E. ใหม่ทุกครั้ง, มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง, ผง D.E. อาจเป็นอันตรายหากสูดดม

1.4 ถังกรองสระว่ายน้ำ Mobile (Mobile Filter Units) - สะดวกและคล่องตัว

คือชุดกรองสำเร็จรูปที่รวมเอาปั๊มและถังกรอง (ส่วนใหญ่เป็นถังกรองทราย) มาไว้บนรถเข็นเดียวกัน เหมาะสำหรับสระขนาดเล็ก, สระชั่วคราว, หรือใช้เป็นเครื่องดูดตะกอนเสริม

• ข้อดี: ไม่ต้องติดตั้งถาวร, เคลื่อนย้ายสะดวก, ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play
• ข้อเสีย: เหมาะกับสระขนาดเล็กเท่านั้น, ประสิทธิภาพการกรองอาจไม่เท่าระบบถาวร

อัปเกรดเพื่อความใสที่ดีกว่าด้วย "สารกรองแก้ว"

แม้จะเรียกว่า "ถังกรองทราย" แต่ตัวเลือกสารกรองที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ สารกรองแก้ว (Glass Media) ซึ่งทำจากแก้วรีไซเคิล มีข้อดีกว่าทรายแบบดั้งเดิมคือ:

• กรองละเอียดกว่า: ทำให้น้ำใสกว่าอย่างเห็นได้ชัด
• อายุการใช้งานยาวนานกว่า: 8-10 ปี เทียบกับทรายที่ 3-5 ปี
• ประหยัดน้ำ: ใช้เวลาและน้ำในการ Backwash น้อยกว่า
• สะอาดกว่า: พื้นผิวเรียบทำให้แบคทีเรียและ Biofilm ก่อตัวได้ยากกว่า

แม้จะมีราคาสูงกว่าทราย แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว

ค้นหาถังกรองที่ใช่ เพื่อน้ำที่ใสที่สุดสำหรับสระของคุณ

ไม่ว่าคุณจะมองหาถังกรองทราย ถังกรองผ้า หรืออุปกรณ์เสริม
เรามีสินค้าครบครันจากทุกแบรนด์ชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ